เปิดกล่อง My Brand Box เดือนธันวาคม

สวัสดีจ้า วันนี้เราจะมาเปิดกล่องความงามหนึ่งแบรนด์ที่ทางแบรนด์ส่งมาให้นัตตี้นะค่ะ
นั้นก็คือ MY BRAND BOX นั้นเอง ซึ่งเป็นแบรนด์สัญชาติเกาหลีที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเรา
ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้เอง

นัตตี้ได้มาเป็นกล่องแรกก็คือกล่องของเดือนธันวาคมนั้นเอง

ทางแบรนด์ส่งอีเมล์มาบอกว่าส่งออกมาแล้ววันที่ 6 กล่องมาถึงวันที่ 8 แต่อยู่ที่ออฟฟิศ
นัตตี้เพิ่งได้สัมผัสกล่องก็วันที่ 10 เข้าไปแล้ว แล้ววันที่เปิดกล่องก็ปาเข้าไปวันที่ 16 (ยาวนานมากๆ)

ทางแบรนด์ส่งมาแบบลงทะเบียน จริงๆแล้วน่าจะส่งแบบ EMS นะจะได้ตามง่ายๆหน่อย

แกะห่อออกมาก็จะเจอกับกล่องสีขาวสะอาดตา มีโลโก้ MY BRAND BOX สีชมพูอยู่ตรงกลางกล่อง

เปิดฝากล่องออกมาก็จะเจอของที่มาเต็มกล่องเลยทีเดียว รองด้วยกระดาษสีเขียวเข้ากับธีม Christmas box

บนฝากล่องจะปิดด้วยพลาสติกแข็งใสครอบอีกที

มาดูกันที่การ์ดกันก่อนเลย ก็จะเป็นการ์ดสีแดงขอบเขียว มีรูปคุณซานต้าเข้ากับธีมนั้นเอง

ภายในการ์ดก็จะเป็นรายละเอียดผลิตภัณฑ์ภายในกล่องนี้ ค่ะ ว่ามีสรรพคุณอะไรบ้าง ใช้อย่างไร

อธิบายมาละเอียดมากๆ แต่ไม่มีบอกราคาตัวจริงไว้ จะบอกในเว็บไซต์ของ MY BRAND BOX ค่ะ 

เดือนนี้มีเซอร์ไพรส์ให้เราลุ้นในถุงเท้าแดงด้วย ><

มาดูกันที่ชิ้นแรกในกล่องนี้เลยดีกว่า นั้นก็คือ แชมพูและครีมนวดผมจาก Esthaar

Esthaar : HAIR ENERGY SHAMPOO & CONDITIONER 

Sample size : 50 ml. 

รายละเอียดผลิตภัณฑ์ : 

ภายใน 24 ชั่วโมงพลังสุขภาพผมและหนังศีรษะจะดีขึ้นด้วยส่วนผสม จากพลังงานธรรมชาติ

- 117% หลังการใช้แชมพูคู่กับครีมนวดเส้นผมที่ขาดหลุดร่วงดี ขึ้น 

- 63% หนังศีรษะที่เกิดอาการแพ้ระคายเคืองลดลงเมื่อเทียบกั บแชมพูปกติ 

- สมุนไพรธรรมชาติที่มี วิตามินและแร่ธาตุ 12 ชนิด 

- เสริมสร้างความเข้มแรงให้รากผมด้วยสมุนไพรธรรมชาติสิ ทธิบัตรส่วนผสม 10-0839704 

- สมุนไพรธรรมชาติ 99%

Hair Type : ผมธรรมดา – ผมแห้ง

น่าลองมากๆ เหมาะกับคนที่ชอบลองแชมพูกับครีมนวดอย่างนัตตี้เป็นที่สุด ^0^

ชิ้นที่ 3 Mask จาก Paterna

Paterna : HYDRO-REGEN CARE MASK PACK

Full size : 20 g

รายละเอียดผลิตภัณฑ์ :

 
Paternoster มาร์คที่ช่วยปกป้องผิวจากอันตรายภายนอก จากการศึกษาการรักษาบาดแผลของผิวหนัง

จากผู้เชี่ยวชาญในสาขาเทคโนโลยีชีวภาพ KAIST (สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกาหลีชั้นสูง)

ได้นำ Bioinfomatix วัสดุธรรมชาติที่ได้มาจากผลิตภัณฑ์ cosmeceutical จากการวิจัยและการพัฒนากลศาสตร์และวัสดุเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรบนพื้นฐานของหลักธรรมชาตินำ มาเป็นส่วนประกอบของมาร์ค

Skin Type : ทุกสภาพผิว

เหมาะอีกแล้วเหมาะมากๆ วันไหนออกไปเจอแดดจัดๆต้องลองซะหน่อยแล้ว…

ชิ้นที่ 4-5-6 มาจากแบรนด์ The Saem ที่นัตตี้เพิ่งรู้จักได้ไม่นาน 

บังเอิญไปเดินเล่นสีลมคอมเพล็กซ์แล้วเจอ Shop พอดี พรีเซ็นเตอร์แบรนด์นี้นั้นก็คือ IU นั้นเอง

The Saem : Gem Miracle Black Pearl O2 Bubble Mask 

Sample size : ไม่ได้บอกไว้อ่ะ มาเป็นซอง

รายละเอียดผลิตภัณฑ์ : ทำความสะอาดผิวและขจัดความมันบนใบหน้าได้อย่างหมดจด

ด้วยสารสกัดจากมะละกอและสมุนไพร และยังมีส่วนผสมจากไข่มุกดำที่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นได้

เป็นมาร์คที่ทั้งทำความสะอาดและบำรุงผิวหน้าได้ในหนึ่งเดียว

The Saem : URBAN ECO HARAKEKE TONER&EMULSION

Sample size : ไม่ได้เขียนไว้อีกเหมือนกัน

  
รายละเอียดผลิตภัณฑ์ : Urban Eco Harakeke Toner ใช้สารสกัดจากพืชฮาราเกเก 100% แทนน้ำเปล่า

ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆและคงความชุ่มชื่นได้ยาวนาน

เนื้อโทนเนอร์มีลักษณะเป็นเจลใส ซึมสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว

Urban Eco Harakeke Emulsion ใช้สารสกัดจากพืชฮาราเกเก 100% แทนน้ำเปล่า 

ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆและคงความชุ่มชื่นได้ยาวนาน

ช่วยป้องกันผิวเสียและบำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 
Skin Type : เหมาะกับทุกสภาพผิว

อันต่อไปเป็นคูปองส่วนลด จากปกติลด 50% ลดเพิ่มให้อีก 5%!! ใช้ได้กับเคาท์เตอร์ The Saem ทุกสาขา

 
ใช้ได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2556 ค่ะ

จากที่ไปลองโฉบเคาท์เตอร์มาแล้วน่าเล่นหลายอย่าง Mask ถูกมาก29 บาทเองอ่ะ

ยาทาเล็บก็น่าเล่นหลายสี เดี๋ยวต้องไปสอยซะแล้ว ><

ชิ้นที่ 7 แล้ว เซรั่มจาก Claire's ค่ะ

Claire's : LUMACA CELLA SOLUTION 

Full size : 5 ml. (ขวดที่ได้คือขนาดจริง *0*)

รายละเอียดผลิตภัณฑ์ : จัดทำโดยกระบวนการเมือกหอยทากที่จดสิทธิบัตรพิเศษ

Hydrapro-tectol (เลขที่สิทธิบัตร FR 2 678 830) จาก "Sederma" ประเทศฝรั่งเศส

ส่วนผสมสูตรทางวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุด ผิวของเราโดยเฉพาะใบหน้าได้รับสิ่งเร้าจาก ปัจจัยภายนอกต่างๆ

ทั้งมลภาวะ ความแห้งกร้าน เครื่องสำอางและรังสีอัลตร้าไวโอเลต เมื่อไรที่ภูมิต้านทานในชั้นผิวของคุณ

เริ่มอ่อนแอลง ผิวของคุณจะไม่สามารถเก็บความชุ่มชื้นจากมอยเจอร์ไรเ ซอร์ครีมใดๆ

หรือเพียงแค่เล็บหรือมือสัมผัสบนใบหน้าขอ งคุณก็ทำให้เกิดปัญหาสิวได้โดยง่าย

'Hydraprotectol' ส่วนผสมจาก Sederma ประเทศฝรั่งเศสที่ถูกคัดสรรเป็นอย่างดี

ให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการลบเลือนริ้วร้อยและยก กระชับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ

Skin Type : เหมาะกับทุกสภาพผิว

ตัวนี้เป็นสินค้าขนาดจริงค่ะ!!! ตกใจเล็กน้อยขวดแค่นี้เองนะ 5ml. น่าลองอยู่นะเออ...

แต่เป็นเหมือกหอยทากแอบกลัวเล็กน้อย -..-“ แต่เกาหลีนี่ฮิตกันมากเลยมีแทบทุกแบรนด์

แผ่นพับเก๋นะสามารถทำเป็นรูปได้ด้วย

ได้ออกมาเป็นเยี่ยงนี้แล...งงอยู่ตั้งนาน -..-

ชิ้นที่ 8 แบรนด์ Hi-End จาก Bvlgari

Bvlgari : EMULSION PRECIEUSE

 
Sample size : 3 ml

 
รายละเอียดผลิตภัณฑ์ :

Bvlgari gem essence อีมัลชั่นที่ช่วยต่อต้านริ้วรอย ยกกระชับผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ยกกระชับ กระจ่างใส

ด้วยส่วนผสมที่ ประกอบด้วย Polypeptides lll และ Frederic Seed Oil ที่ดีที่สุดของ BVLGARI

ราคาไซส์จริงอลังการอยู่นะตัวนี้ -..-"

มาถึงชิ้นสุดท้ายแล้วววววววววว ตื่นเต้นๆ ชิ้นนี้จะของขวัญที่ทาง MY BRAND BOX เซอร์ไพรส์
ให้เราลุ้นกันเอาเอง โดยการสุ่มใส่มาในถุงเท้าสีแดงน่ารัก มาเปิดของขวัญเซอร์ไพรส์กันเลยดีกว่า ><

อะไรหว่า??? มาเป็นซอง

นั้นก็คือ...

Redergen : Hydro Brightening Sheet Mask

มาร์คหน้าอีกแล้ว ตอนนี้มีมาร์คให้ได้ถึงปีหน้าเลยอ่ะ -..- แต่ไม่เป็นไรเราชอบมาร์คหน้าอยู่แล้ว 555

สำหรับผลิตภัณฑ์ในกล่องเดือนนี้มีทั้งหมด 9 ชิ้น กับอีก 1 Gift Voucher คุ้มมากๆ

สำหรับใครที่สนใจอยากสมัครรับกล่ิองความงามของ MY BRAND BOX ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่

www.mybrandbox.co.th

www.facebook.com/MyBrandBox

ราคาต่อกล่อง 1 เดือน ราคา 495บาท และ 3 เดือน ราคา 1,485 บาทนะจ๊ะ

เีรียบร้อยแต่เพียงเท่านี้นะคะกับการเปิดกล่อง MY BRAND BOX DECEMBER 

ยังไงก็ต้องขอขอบพระคุณทาง MY BRAND BOX มากนะคะ ที่ส่งกล่องมาให้นัตตี้ได้เปิดให้เพื่อนๆได้ชมกัน

เป็นการเปิดโลกทัศน์มากๆ มีหลายแบรนด์จากเกาหลีที่เราไม่รู้จักทั้งนั้นเลย

ไปก่อนแล้วนะจ๊ะ คอยติดตามนัตตี้กันไปเรื่อยๆนะ จะพยายามอัพทั้งบล็อคและวีดีโอด้วยเน้อ...บ๊ายบาย ^^

กินเที่ยวเปรี้ยวคนเดียว : Yoshinoya และ After you สีลมคอมเพล็กซ์

           ตามสไตล์สาวโสดและเพื่อนทิ้ง(แลดูน่าสงสารป่ะ!!) เราก็ต้องไปไหนมาไหนคนเดียวด้วยความเคยชินจริงป่ะ!!!

โปรแกรมวันนี้ตั้งใจว่าจะไปกินบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นที่ร้าน Inaho พระราม 4 แต่ด้วยความช้าตามสไตล์ก็ไปถึงร้านตอน 13.15น. ซึ่งมื้อกลางวันปิดตอน 14.00น. ทันไหมหล่ะ -.-" เราก็เลยไปหาอะไรกินเอาดาบหน้าที่สีลมคอมเพล็กซ์

แล้วเราก็เลือกร้าน Yoshinoya ที่อยู่ชั้นใต้ดิน เนื่องจากว่าเรามีบัตรลดได้ 15% นั้นแหละคือเหตุผลที่เลือกร้านนี้ 555

ร้านนี้จุดขายก็คือข้าวหน้าเนื้อสไตล์ญี่ปุ่นแต่หมูกับไก่ก็มีนะ ซึ่งจะมาเป็นเซทให้เราเลือก

พนักงานแนะนำเซท S ซึ่งแบบ Full option มากคิดในใจ นี่เห็นว่าฉันกินเยอะขนาดนั้นเลยหรอย่ะ!!!

เราก็เลยเลือกเป็นเซท A ซึ่งประกอบไปด้วย ข้าว 1 ถ้วย น้ำ 1 แก้ว และซุป 1 ถ้วย

เซทที่เราเลือกคือ A7 ข้าวหน้าหมูย่างรสเผ็ด + น้ำชามะนาว + ซุปสาหร่ายวากาเมะ

หมูย่างรสเผ็ดแต่ก็ไม่เผ็ดนะ ตามสไตล์ญี่ปุ่นมั่ง ออกเผ็ดๆหวานๆมากกว่า

แต่ที่ไม่ปลื้มเลยก็คือข้าว เขาหุงเหมือนข้าวไทยอ่ะ คือมันร่วนๆ ข้าวญี่ปุ่นมันต้องเหนียวหน่อยเวลาใช้ตะเกียบคีบมันจะง่าย กินข้าวกับถ้วยลักษณะนี้นัตตี้ชอบใช้ตะเกียบอ่ะ แต่ข้าวเป็นอย่างนี้เลยต้องใช้ช้อนแทน

และสิ่งนี้เค้าเรียกว่าอะไรไม่รู้แต่อร่อยเอาไว้โรยข้าว ออกเผ็ดนิดๆอร่อยดีชอบ ><

สรุปมื้อนี้ 149 บาท ข้าว+น้ำ+ซุป ถ้าเป็นข้าวไซส์ใหญ่ก็เพิ่มอีกเป็น 175 บาทมั่ง...

ใช้คูปองส่วนลด 15% เหลือ 127 บาท

แล้วเราก็มาต่อของหวานกันที่ร้าน After you ชั้น 2 ตรงทางเชื่อมรถไฟฟ้าพอดี

ร้านคนเยอะตลอดเท่าที่เห็นตั้งแต่เปิดมา

ได้คิว A046 รอประมาณ 3 คิวได้

ได้โต๊ะเบอร์ 3 ข้างหน้าต่างพอดี(จากรูปข้างบนซ้ายมือในสุด)โต๊ะเล็กไปหน่อย แต่นั่งคนเดียวก็พอแระ

โต๊ะข้างๆเป็นคุณตาคุณยายมากินกัน 2 คน น่ารักมาก >< แอบเพ้อว่าสักวันฉันจะเป็นอย่างนี้ไหม...

เมนูที่ขึ้นชื่อก็ร้านเลยก็คือ Toast ต่างๆ

เมื่อเราสั่งเมนูแล้วพนักงานก็จะมาเสริฟช้อมส้อม แก้วกระดาษ(ไว้ไปกดน้ำชา) และน้ำผึ้งสำหรับราดเพิ่ม

เมนูที่นัตตี้สั่งวันนี้เลยคือ Shibuya Honey Toast เป็นเมนู Signature ของร้านเลย

มันก็จะเป็นขนมปังก้อนปิ้ง ทาเนยเยอะมาก(แอบเลียน) คู่กับไอติมวานิลาและวิปครีม

มันเป็นอะไรที่ลงตัวมาก...ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน กินคู่กับไอติมหวานๆเย็นๆแล้วมันใช่มาก ฟินนน ><

ลองราดน้ำผึ้งเพิ่มความหวานเข้าไปอีกอร่อยๆ >0<

เครื่องดื่มเราสั่ง Ice Mochaccino ช็อกโกแลตเข้มอร่อยมาก!!!

สรุปของหวานมื้อนี้

Shibuya Honey Toast 165บาท

Ice Mochaccino 115บาท

รวม 280บาท (แพงกว่าข้าวอีก -..-)

วันนี้อิ่มมากกกก ข้าวก็เยอะแล้วนะมากิน Toast อีก ซึ่งแบบจานนึงกิน 2 คน แต่นัตตี้ซัดคนเดียวหมด 555

คราวหน้านัตตี้จะพาไปกินไปเปรี้ยวที่ไหนอีกก็คอยติดตามกันในบล๊อคนะจ๊ะ บ๊ายบาย <3