วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เซรั่มรกหมูเข้มข้น 2 เท่า Fracora White'st Placenta Extract Enrich

ถ้าพูดถึเซรั่มที่ฮอตฮิตอีกตัวหนึ่งของเมืองไทยในปีที่ผ่านมาก็คงจะหนีไม่พ้นแบรนด์ Fracora
ตัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและเป็นนางเอกของแบรนด์นั้นก็คือ Placenta Extract
  
Cr.Fracora Thailand 

 เป็นเซรั่มที่ต้องบอกว่าขายดีถล่มทลาย และโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ที่ทำให้หลายคนตามกว้านซื้อตุนกันเกลี้ยง มาในปีนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนแพคเกจจิ้งใหม่ในชื่อ White'st Placenta Extract ที่นัตตี้ใช้หมดไปแล้ว 1 ขวด
  
สารสกัดที่ได้จากรกหมูนั้นอุดมไปด้วยกรดอะมิโน วิตามิน กรดไขมัน และแร่ธาตุในปริมาณมาก
ที่จะช่วยในเรื่องการสมานผิว เติมความชุ่มชืน ลดระคายเคือง และลดเลือนริวรอย ทั้งยังมีคุณสมบัติในการเป็นเป็นไวท์เทนนิ่งได้อีกด้วย ซึ่งเป็นที่นิยมมากในประเทศญี่ปุ่น ในญี่ปุ่นรกถูกจัดอยู่ในกลุ่มยาที่มาจากธรรมชาติ
มีคุณสมบัติทางยาแต่ไม่ใช่ยา ง่ายๆคือจัดอยู่ในประเภทอาหารเสริมหรือเครื่องสำอาง 

Fracora เป็นเซรั่มบริสุทธิ์ที่สกัดจากพลาเซนต้าหรือรกหมูแท้ 100% ที่เลี้ยงในฟาร์มเปิดที่ปลอดเชื้อและมีคุณภาพดี ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน SPF หรือ Specic Pathogen Free ของประเทศญี่ปุ่น การแปรรูปและการผลิตทั้งหมดทำในประเทศญี่ปุ่น โดยโรงงานที่มีมาตรฐาน GMP โดยใช้กรรมวิธีผลิตพิเศษ ทำให้ไม่มีกลิ่นรบกวนจากกลิ่นเฉพาะตัว และยังปราศจากสี พาราฟีน สารลดแรงตึงผิว และน้ำมันแร่อีกด้วย จึงมีความอ่อนโยนและปลอดภัย ได้รับรางวัลอันดับ 2 ในประเภทเซรั่มจากเว็บไซต์อับดับ 1 ของญี่ปุ่นอย่าง Cosme ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2012 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2013 ที่ผ่านมา และเป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และอาหารเสริมจากพลาเซนตาและคอลลาเจนอันดับ 1 ในญี่ปุ่น

เกริ่นมาซะยาวเลย สำหรับตัวหลักที่นัตตี้จะพูดถึงในบล็อกนี้นั้นก็คือ
Fracora White'st Placenta Extract Enrich

 เป็นสูตรใหม่ที่เข้มข้นมากกว่าสูตรเดิมถึง 2 เท่า แต่ส่วนผสมนั้นยังเหมือนเดิม
นั้นก็คือน้ำ ไกลคอล พลาเซนต้าและสารกันเสีย
 
 อาวแล้วถามว่ามันเข้มข้นกว่ายังไงหล่ะ? พอดีนัตตี้ได้ไปร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวนี้มา
เขาก็ได้มีการทดสอบเทียบกับแบรนด์อื่นๆที่มีส่วนผสมของพลาเซนต้าในญี่ปุ่น(โดยไม่บอกว่าแบรนด์อะไร) เทียบให้เห็นถึงความเข้มข้นโดยจะแสดงผลออกมาในด้านของสี ซึ่งวันนั้นเท่าที่ได้เห็นของฟราโคร่านั้นก็เข้มข้นที่สุด และเมื่อเทียบกันระหว่างสูตรเก่ากับสูตรใหม่นั้นก็จะเห็นถึงความต่างอย่างชัดเจน
Cr. จาก Facebook คุณฟ้า Fah Jilamiga Chalermsuk

 หน้าตาขวดนั้นก็ยังคงเหมือนเดิมคือสีชา เป็นหัวบีบแบบดรอปเปอร์ แพคเกจใหม่และสูตรใหม่นั้นที่หลอดจะมีเส้นบอกปริมาณในการใช้ในแต่ละครั้งด้วย ปริมาณในการใช้ในแต่ละครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 10 หยด
  
เนื้อเซรั่มนั้นก็คือจะเหมือนเดิมเลย คือเหลวใสไม่ต่างจากน้ำ
แต่สูตรใหม่จะแอบมีกลิ่นขึ้นมานิดนึง เมื่อเทียบกับสูตรเดิมที่ไม่มีกลิ่นเลย
 
สำหรับขั้นตอนในการลงนั้นคือลงเป็นตัวแรกสุดหลังล้างหน้า แต่ถ้าวันไหนใช้โทนเนอร์ นัตตี้จะเช็ดตัวโทนเนอร์ก่อนแล้วลงตัวนี้ ลงโดยใช้วิธีการค่อยๆประคบลงไปที่ผิวเหมือนเวลาเราใช้น้ำตบต่างๆ ประคบจนซึมลงผิวจนหมดแล้วตามด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ หลังลงเสร็จแล้วจะรู้สึกหนึบๆที่ผิวเล็กน้อยให้ความรู้สึกว่านี่ไม่ใช่น้ำเปล่านะจ๊ะ ฮ่าๆ
 
จากการทดลองใช้มาแล้วก็เห็นผลได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ใช้ คือผิวดูสุขภาพดี กระจ่างใสขึ้น ชุ่มชื้นกว่าสูตรเดิม ในเรื่องของลดเลือนริ้วรอยอาจจะยังไม่ชัดเจน แต่ทั้งนี้นัตตี้ก็ใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งร่วมด้วยเพื่อเสริมฤทธิ์กัน
สรุปโดยรวมแล้วเป็นเซรั่มที่สามารถเสริมการบำรุงผิวจากเดิม หรือเพิ่มประสิทธิภาพของไวเทนนิ่ง
เนื้อบางเบาเหมาะกับทุกสภาพผิว อ่อนโยน ปราศจากสีและน้ำหอม
ใครที่ติดใจสูตรเดิมเหมือนนัตตี้แล้วก็อยากให้ลองสูตรใหม่ดู

 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่ตามสภาพผิวของแต่ละคนด้วย ถามว่าจะแพ้ หรือใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?
อันนี้นัตตี้เองก็ไม่สามารถตอบได้ เพราะการแพ้และอุดตันของผิวนั้นเกิดได้หลายปัจจัยในแต่ละคน
เพราะฉะนั้นก่อนซื้อแนะนำว่าควรทดสอบและทดลองผลิตภัณฑ์ก่อนใช้ทุกครั้ง

สำหรับข้อเสียของนัตตี้คงเป็นเรื่องขวดแก้วที่ต้องระวังแตก
และเวลาใช้ต้องเปิดปิดให้ดี นัตตี้เคยเผลอเกือบทำหกมาแล้ว(ถ้าหกนี่ร้องไห้แน่ๆ)

1 ขวด 30 ml. ราคา 1,890บาท แพงกว่าสูตรเดิม 500บาท
ใช้เช้า-เย็นตกขวดละ 1 เดือนได้ แอบเปลือง แต่ใช้แล้วก็ติดใจ ฮ่าๆ
มีจำหน่ายแล้วที่เคาน์เตอร์ Jill Mika และร้าน Watsons
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fracora Thailand
 
รีวิวทั้งหมดเป็นความคิดเห็นโดยส่วนตัวของนัตตี้เท่านั้น ผลการใช้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน Non-Sponsored Content ผลิตภัณฑ์ได้มาจากงานเปิดตัวของทางแบรนด์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น